25.10.54

ผู้ว่าฯ สมุทรสาครเผยน้ำท่วมถึงสมุทรสาครอย่างน้อยก็ 10 วัน วอนอย่าตระหนก-แตกตื่น


สาครออ นไลน์ – ผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ สมุทรสาครพร้อมด้วยชลประทานชี้แจงสถานการณ์น้ำหลัง ศปภ.ประกาศเตือนขนของ ยืนยันสถานการณ์ปกติ กว่าน้ำท่วมจากบางบัวทองมาถึงอย่างน้อยก็ 10 วัน รองผู้ว่าฯ สุริยะเผยกว่ามวลน้ำจะเข้ามาได้ต้องเจอคลองต่างๆ แถมแนวทางรถไฟสายใต้ และถนนสายสำคัญยังช่วยให้น้ำลดระดับลงมาเรื่อยๆ แต่ไม่ประมาทสั่งเตรียมพร้อมหากสถานีสูบน้ำมหาสวัสดิ์ระดับ น้ำสูงเกินไป

หลังจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แถลงฉบับที่ 4 แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำท่วมขังย้ายของขึ้นที่สูง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือจังหวัดสมุทรสาคร อ.เมืองฯ อ.บ้านแพ้ว และ อ.กระทุ่มแบน ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก 0.30-0.50 เมตร เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
วานนี้ (20 ต.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด สมุทรสาคร พร้อมด้วยนายสุริยะ ปราสาทบัณฑิตย์, นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายพิ สิษฐ์ พิบูลย์ศิริ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรสาคร และนายอำพล อังคภากรณ์กุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันชี้แจงถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดให้ประชาชนได้รับทราบ ตามความเป็นจริง ผ่านทางเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาคร
โดยนายจุลภัทรชี้แจงว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดสมุทรสาครยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำที่ถูกปล่อยจากกรุงเทพมหานครยังอยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 วันกว่าจะมาถึงจังหวัดสมุทรสาคร เพราะต้องผ่านคลองและถนนที่เปรียบเสมือนเขื่อนอีกหลายด้าน จึงทำให้จังหวัดสมุทรสาครมีเวลาที่จะเตรียมตัวได้ทันต่อเหตุการณ์
ส่วนแผนการตั้งรับสถานการณ์จะมีอยู่ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 จะเป็นการแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ ระดับที่ 2 จะเป็นการประกาศให้ประชาชนได้เตรียมยกของขึ้นที่สูง โดยจะมีจุดเฝ้าระวังอยู่ที่สถานีสูบน้ำมหาสวัสดิ์ โดยประชาชนจะมีเวลาในการขนย้ายสิ่งของถึง 2 วัน และระดับที่ 3 เมื่อถึงขั้นวิกฤตจึงจะมีคำสั่งให้อพยพ
ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาครในขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ 1 เท่านั้น แต่หากจะเกิดน้ำท่วม ความสูงของน้ำน่าจะอยู่ในระดับไม่เกิน 30 เซนติเมตร ซึ่งทางจังหวัดจะมีการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างเป็นระยะ และคาดว่าสถานการณ์ไม่รุนแรงเข้าขั้นวิกฤต อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนได้เข้าใจตรงกันว่าทางจังหวัดยังไม่มีการให้สัญญาณ เตือนภัยในการอพยพแต่อย่างใด และสถานการณ์ยังอยู่ในภาวะปกติ จึงอย่าเพิ่งตระหนกหรือแตกตื่น แต่ให้เตรียมตัวเอาไว้
ด้านนายสุริยะอธิบายว่า จากจุดที่น้ำท่วมใน จ.นนทบุรี อยู่ห่างจากจังหวัดสมุทรสาครประมาณ 40-50 กิโลเมตร สถานการณ์ปัจจุบันน้ำได้ท่วมข้ามไปถึงถนนบางรักใหญ่-บ้านใหม่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่ติดอยู่ที่แนวคลองประปาตะวันตก ซึ่งคันคลองประปามีความสูง 2.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง กระแสน้ำจะข้ามเข้าไปได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน
ต่อมาจากจุดดังกล่าวเคลื่อนตัวเป็นระยะทาง 11 กิโลเมตร ก็จะถึงแนวคลองมหาสวัสดิ์ เข้ามาที่แนวทางรถไฟสายใต้ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 3 เมตร มาถึงตรงนี้น้ำส่วนหนึ่งก็ต้องไหลลงคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งก็สูบน้ำออกทางแม่น้ำท่าจีนและคลองทวีวัฒนาตลอดเวลา จุดนี้ก็ใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 วันก็จะข้ามแนวนี้มาได้ ซึ่งก็มาถึงแนวถนนบรมราชชนนี ซึ่งมีคลองระบายน้ำ มีถนนธรรมชาติที่สูงประมาณ 2.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
อย่างไรก็ตาม จากถนนบรมราชชนนีมาถึงถนนเพชรเกษมก็อีกหลายกิโลเมตร ซึ่งจะมีถนนสุขาภิบาล 2 ของเทศบาลนครอ้อมน้อย อ กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.70 เมตร กว่าจะข้ามมาถึงถนนเพชรเกษมก็ใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2-3 วัน แล้วยังต้องเจอคลองภาษีเจริญอีก ซึ่งก็ระบายน้ำและสูบน้ำออกทางประตูน้ำภาษีเจริญ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ออกแม่น้ำท่าจีนตลอดเวลาเช่นกัน และเป็นจุดเฝ้าระวัง กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ใช้เวลาอีก 2-3 วัน
นายสุริยะกล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าจากจุดที่กล่าวมาข้างต้นใช้เวลาถึง 10 วัน และน้ำก็จะลดระดับลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าต้องระบายออกตามคลองต่างๆ นอกจากนั้นยังมีคลองธรรมชาติเล็กๆ น้อยๆ อีก ซึ่งจากคลองภาษีเจริญลงมาแม่น้ำท่าจีนมาลงอ่าวไทยก็ได้ขุดลอกคู คลอง อาทิ คลองหมื่นปรารมย์ คลองสี่วา ฯลฯ เตรียมไว้หมดแล้วเพื่อให้น้ำไหลเร็วที่สุดลงมาในคลองมหาชัยไปยัง อ่าวไทย ซึ่งกว่าจะลงมาถึงระดับน้ำสูงเต็มที่ไม่เกิน 20-30 เซนติเมตรเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท จังหวัดสมุทรสาครได้เตรียมความพร้อม หากสถานีสูบน้ำมหาสวัสดิ์ น้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.6 เมตร จะเตรียมการเฝ้าระวังในขั้นที่ 2 คือการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ซึ่งจะมีเวลาเตือนให้เฝ้าระวังได้อย่างเร็วที่สุด 2 วัน ทั้งนี้ ตลอดแนวแม่น้ำท่าจีน ผู้ว่าฯ สมุทรสาครได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสริมคันกั้นน้ำ ให้อยู่ในระดับ 2.50 เมตร ถ้าจะล้นออกมาก็มีเพียงนิดเดียว
นอกจากนี้ ยังมีสถานีสูบน้ำมากมาย เครื่องสูบน้ำทั้งจังหวัดมีจำนวน 40-50 เครื่อง ทั้งของท้องถิ่นและจังหวัด โดยเฉพาะเทศบาลนครสมุทรสาครได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 20-30 เครื่อง หรือจะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ก็มีเครื่องสูบน้ำเตรียมเอาไว้ 5-6 เครื่อง เพราะฉะนั้นเรามีเวลาพอสมควรในการเตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะศูนย์เฝ้าระวังของจังหวัดและอำเภอทั้ง 3 อำเภอ
ด้านนายสมบูรณ์ บุญแสงทิพย์ นายอำเภอกระทุ่มแบน เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเปิดเผยว่าในขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการทั้งในระดับ อำเภอและตำบล ในเบื้องต้นได้มีการเตรียมกระสอบทรายเพื่อป้องกัน รวมทั้งการระบายน้ำ การทำคันดิน และการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบ นอกจากนี้ยังได้ประสานกับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ อ.กระทุ่มแบนตลอดเวลา โดยจะยึดข้อมูลสถานการณ์แจ้งให้เทศบาลและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ และจะมีการจัดเวรยามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

submit feed

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Powerade Coupons